Wednesday, July 22, 2020


สำหรับ ครีมเติมสี มีรายละเอียดดังนี้

ครีมสำหรับเติมสี หรือ color cream เป็นผลิตภัณฑ์ที่พัฒนาต่อยอดมาจาก shoe cream and shoe balm

โดยการพัฒนาครีมขึ้นมา ให้มีแว๊กซ์กับน้ำมันอัตราส่วนประมาณ 1 ต่อ 1 และเติมเม็ดสี เข้าไป พร้อมกับสารที่ทำให้สีกระจายตัว ทำให้สีเกาะกับหนังและซึมเข้าในหนังได้ดีขึ้น รวมถึงการเติมสารที่ทำให้เม็ดสีกับแว๊กซ์และน้ำมันเข้ากันได้ดียิ่งขึ้น ไม่แยกส่วน

Color cream ที่พัฒนาขึ้น ในชุดแรกมี 7 สี จึงเรียกว่า ครีม 7 สี มณี 7 แสง ประกอบด้วยสี 7 สีคือ
แดง ขาว น้ำเงิน เขียว ดำ น้ำตาล เหลือง

ซึ่งขณะใช้งานจริง จะสามารถนำสีมาผสมกันได้ ทำให้เกิดสีที่ตรงกับหนังอันนั้นจริง ๆ และสามารถใช้กับรองเท้าได้ทุกสี
โดยสีดำ จะทำให้สีมีความเข้มขึ้น และสีขาว จะทำให้สีนั้นอ่อนลง

ปริมาณขายเริ่มต้นที่ 10 กรัม ราคา 75 บาท สำหรับสีที่ไม่ใช่ เขียว เหลือง น้ำเงิน
ครีมที่เป็นสีเขียว เหลือง น้ำเงิน เริ่มต้นที่ 10 กรัม ราคา 90บาท


สำหรับน้ำยาซักพื้นรองเท้าหนัง พื้นยาง พื้นหนัง พื้นโฟมและพื้นยางดิบ(พื้นแยม) ที่ออกใหม่ มีรายละเอียดตามนี้ครับ

เนื่องจาก พื้นรองเท้า ก็มีความสำคัญมาก และหากถูกทำความสะอาดอย่างถูกต้องเหมาะสม จะทำให้รองเท้ามีอายุยืนนานและดูสวยงาน มีค่ามีราคา

ทาง JDG และทีมงาน ได้ออกแบบผลิตภัณฑ์และทำผลิตภัณฑ์ออกมาเรียบร้อย เป็นน้ำยาซักพื้นรองเท้าหนัง พื้นยาง พื้นหนัง พื้นโฟมและพื้นยางดิบ(พื้นแยม) โดยเฉพาะ ครอบคลุมทุกการใช้งาน

โดยเฉพาะพื้นโฟม ใช้แล้วขาวผ่อง สดใส เป็นยองใยเลย

มีทั้งหมด 6 สูตรครับ ตามรายละเอียดดังนี้ โดยแบ่งเป็น 6 เกรดของความแรง

·         C ตัวเริ่มต้น ประสิทธิภาพดีกว่าน้ำยาซักล้างทั่วไป 25 เปอร์เซ็นต์อัพ ไม่กัด ไม่ต้องล้างออกก็ได้ แค่เช็ดออกก็พอ

·         C+ ตัวเริ่มต้น ประสิทธิภาพดีกว่าน้ำยาซักล้างทั่วไป 30 เปอร์เซ็นต์อัพ ไม่กัด ไม่ต้องล้างออกก็ได้ แค่เช็ดออกก็พอ

·         B ตัวกลาง เริ่มกัด ถ้าซักนาน ๆ ควรใส่ถุงมือ ประสิทธิภาพดีกว่าน้ำยาซักล้างทั่วไป 35 เปอร์เซ็นต์อัพ ไม่ต้องล้างออกก็ได้ แต่ต้องใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดออกให้หมดเท่าที่ทำได้

·         B+ ตัวกลาง เริ่มกัดเยอะ ถ้าซักนาน ๆ ควรใส่ถุงมือ ประสิทธิภาพดีกว่าน้ำยาซักล้างทั่วไป 40 เปอร์เซ็นต์อัพ ไม่ต้องล้างออกก็ได้ แต่ต้องใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดออกให้หมดเท่าที่ทำได้

·         A ตัวท็อป กัดเยอะ ถ้าซักต้องใส่ถุงมือ ประสิทธิภาพดีกว่าน้ำยาซักล้างทั่วไป 45 เปอร์เซ็นต์อัพ  ต้องใช้น้ำล้างออกเท่านั้น

·         A+ ตัวท็อป กัดเยอะ ถ้าซักต้องใส่ถุงมือ ประสิทธิภาพดีกว่าน้ำยาซักล้างทั่วไป 50 เปอร์เซ็นต์อัพ ต้องใช้น้ำล้างออกเท่านั้น

สำหรับสูตรที่ทำออกขาย จะทำขายแค่ตัว C กับ C+ กับ B เท่านั้น ส่วนตัว B+ กับ A และ A+ ทำขายกันแต่ในพวกพ่อค้าพ่อขายที่คุ้นเคยกันเท่านั้นครับ เนื่องจากสินค้ามีประสิทธิภาพสูง ราคาจึงค่อนข้างสูง และต้องใช้ให้ถูกต้องถึงจะได้ผลดีครับ



รายละเอียดเกี่ยวกับ shoe cream and shoe balm ที่เป็นผลิตภัณฑ์อีก 2 อัน ที่ทำเพิ่มขึ้นมา มีดังนี้ครับ

1.     Shoe cream มีสภาพคล้าย ๆ กึ่ง ๆ น้ำมัน กึ่ง ๆ ครีม ทำหน้าที่เดียวกับ ไขปลาวาฬ (ไม่ได้แข่งกับกีวี เพราะผมไม่ได้เติมสี และไม่ได้เน้นการทำให้แวววาว) ซึ่งผมทำการปรับปรุงให้ดีกว่าไขปลาวาฬ คือ
a.       สิ้นเปลืองน้อยกว่า คือใช้นิดเดียวพอ ได้ผลเท่าเทียมกัน ไขปลาวาฬใส่ที ต้องใช้เยอะครับ หมดเร็ว ของผมหมดช้ากว่า
b.       ราคาต่อหน่วยเมื่อเทียบกับไขปลาวาฬ พอ ๆ กัน แต่ shoe cream ผมใช้ของได้นานกว่า หมดช้า
c.       ผมใส่แว๊กซ์พิเศษเข้าไป ทำให้มีความแวววาวเพิ่มกว่าไขปลาวาฬนิดหน่อยครับ ใส่มากไม่ได้ เด่วแพงครับ
เทียบกันปอนด์ต่อปอนด์ ชนะไขปลาวาฬแน่นอน ด้วยราคาพอ ๆ กัน และสามารถปกป้องหนังได้ดีกว่าไขปลาวาฬเล็กน้อย เพราะมีแว๊กซ์พิเศษ และมีความแวววาวกว่านิดหน่อยครับ
รองเท้าที่เป็นหนังบางแบบ ถ้าสียังดี สภาพพอได้ ไม่ต้องซ่อม ไม่ต้องเติมสี แค่ล้างด้วย saddle soap เรียบร้อย ใช้ shoe cream ของผมต่ออย่างเดียวก็จบครับ ประหยัดกว่าใช้กีวี หรือประหยัดกว่าใช้ไขปลาวาฬครับ ขออนุญาตแนะนำแบบนี้ครับ
เริ่มต้น ราคากรัมละ 2 บาทครับ ราคาพอ ๆ กับไขปลาวาฬครับผม

2.     Shoe balm อันนี้ เป็น balm ที่เน้นการรักษาครับ เรียกว่า ใช้ shoe cream เสร็จแล้ว เอา shoe balm พอกอีกรอบ เหมือนกับพอกแว๊กซ์เคลือบอีกทีน่ะครับ หรือเหมือนกับการใช้ยาหม่องเคลือบผิวน่ะครับ
รองเท้าหนังบางแบบและหลาย ๆ แบบ ถ้าสียังดี สภาพพอได้ ล้างด้วย saddle soap เรียบร้อย ใช้ shoe balm ของผมต่ออย่างเดียวก็จบ หรือจะใช้ shoe cream ก่อนแล้วต่อด้วย shoe balm เรียบร้อยแล้ว
เริ่มต้น ราคากรัมละ 3 บาทครับ แพงกว่าไขปลาวาฬเท่าครึ่งครับ แต่ของผมใช้น้อย นิดเดียว ประหยัดจริง ๆ ครับ ลองใช้ดูนะครับ

โดยปกติ จะใช้ ต่อคู่ต่อปี ประมาณ 75 ถึง 100 กรัม สำหรับ shoe cream และใช้ shoe balm ไม่เกิน 50 กรัมต่อปีครับ


ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวเนื่องกันกับ Saddle soap  มี 2 รายการ

อันแรก คือ liquid saddle soap เป็นการพัฒนา Saddle soap ให้เป็นน้ำครับ ใช้ร่วมกับขวดปั๊มโฟม ทำให้ได้โฟมที่ใช้ทำความสะอาดหนัง เหมือนกับของ ตปท เลยครับ สามารถทำความสะอาดได้ทั้งกับหนังกลับและหนังนูบัคคับ ราคาถูกกว่าของ ตปท เกือบ 2 เท่า แต่สูตรนี้ มีแว๊กซ์น้อยกว่า saddle soap ที่เป็นก้อนแข็งครับ
ปกติขายที่ 300 มล ราคา 450 บาท และแถมขวดปั๊มโฟมราคา 89 บาทครับ

อันถัดมา เป็นผลิตภัณฑ์ที่ทางลูกค้าต้องการ จึงได้ผลิตตามที่ลูกค้าขอมา คือ ลูกค้าต้องการสารซักล้างรองเท้าผ้าใบ และภายในรองเท้าหนัง ที่มียาฆ่าเชื้อครับ ผมจึงได้ผลิต liquid detergent with disinfectant ขึ้นมา และขายให้ลูกค้าไปบ้างแล้ว ใช้คู่กับขวดปั๊มโฟม สะดวกมาก ๆ ครับผม มียาฆ่าเชื้อผสมด้วย สามารถฆ่าและป้องกันเชื้อรา หรือแบคทีเรียได้ดีครับผม
ปกติขายที่ 350 มล ราคา 300 บาท และแถมขวดปั๊มโฟมราคา 89 บาทครับผม

สำหรับ liquid saddle soap และ liquid detergent with disinfectant ใช้กับหนังนูบักและหนังกลับได้ดีครับ รวมถึงใช้ซักล้างภายในรองเท้าหนังได้ดีมากด้วยครับผม

ในการใช้งานร่วมกับขวดปั๊มโฟมถือเป็นเรื่องสำคัญ เพราะเมื่อใช้ขวดปั๊มโฟมแล้วสบู่เป็นโฟม ก็แสดงว่าพร้อมจะทำงานทันที ไม่ต้องแปรงให้เกิดโฟมจึงจะใช้งานได้ครับ ซึ่งสำหรับหนังนูบักและหนังกลับ เราแทบไม่สามารถแปรงได้เลย เพราะหนังจะเป็นรอยได้ง่ายครับ

การใช้งาน liquid saddle soap และ liquid detergent with disinfectant จะเหมือนกันกับการใช้สเปรย์โฟมของสินค้าจาก ตปท เลยครับ

คุณภาพไม่ต่างกันมาก แต่ราคาถูกกว่า และการหาซื้อใช้ง่ายกว่ากันเยอะครับผม

สำหรับรายละเอียด Saddle soap เพื่อให้คุณลูกค้า โดยเฉพาะ


JDG มีผลิตภัณฑ์ซักล้างสิ่งสกปรกออกจากหนัง หรือ saddle soap เป็นผลิตภัณฑ์ที่ผลิตด้วยคนไทยเอง เพื่อคนไทยทุกคน และเผื่อว่าจะสนใจสบู่ซักล้างหนัง ลองเข้าไปดูนะครับผมครับ blog นี้ครับ

Thaisaddlesoap.blogspot.com

JDG ทำ saddle soap หรือสบู่ซักล้างออกมา เพราะหาซื้อ saddle soap ที่ใช้ซักรองเท้าไม่ได้ หาใช้ไม่ได้ พอจะใช้งานสต็อคก็หมด จึงทำขึ้นมาเอง 
ผลิตภัณฑ์ของ JDG ไม่กัดหนัง ไม่ทำร้ายมือ มีน้ำมันบำรุง มีแว๊กซ์เคลือบ ครบถ้วน ทำมาทั้งหมด 4 สูตร 
ตั้งแต่บำรุงรักษาน้อย (ซักได้ดี) ไปจน บำรุงรักษาเยอะ(ซักได้ แต่บำรุงรักษาได้ดีมาก ๆ ) ราคา กรัมละ 1.5 บาท - 5 บาทเลย แล้วแต่สูตร  
โดยราคานี้เป็นราคาขายปลีก ถ้าหากซื้อมาก ๆ หรือซื้อประจำ ก็จะลดลงไปได้อีกมาก
แม้ราคาจะสูงไปนิดแต่จริง ๆ ใช้ไม่มากครับ ไม่เปลือง ต่อคู่ก็ประมาณ 50 กรัม ต่อปี ถ้าใช้งานปกติ

ราคาถูกกว่าสินค้าจาก ตปท แน่นอน ใช้ได้ดีไม่แพ้กัน
ไทยทำ ไทยใช้ ไม่ง้อ ตปท 

สูตรทั้ง 4 ของ Saddle soap
1.     John D. Goodman มี Saddle soap ให้ 4 สูตร
a.     สูตรที่ 1 สำหรับหนังสกปรกมาก เช่น รองเท้าหรือกระเป๋าท่าน ไปติดดินโคลนมา หรือไปติดสารเคมีในโรงงานมา หรือท่านซื้อรองเท้ามืองสอง หรือกระเป๋ามือสองมาใหม่ โดยที่ทางผู้ขายไม่ได้ทำความสะอาดมาให้ท่านให้ดีอย่างที่ควรจะเป็น ท่านต้องใช้สูตรนี้ เพราะสูตรนี้เน้นการซักล้าง และสูตรนี้มีราคาถูกที่สุด
b.     สูตรที่ 2 สูตรพื้นฐาน สำหรับรองเท้าหรือกระเป๋าที่ใช้งานตามปกติ สำหรับหนังทั่วไป เช่นใช้รองเท้าไป แล้วไปโดนโคลนหรือฝุ่นมานิดหน่อย หรือเก็บไว้นาน ๆ โดนฝุ่นจับ เป็นต้น สูตรนี้ราคาปานกลาง
c.      สูตรที่ 3 สูตรเพิ่มพลังซัก และเพิ่มการบำรุง สูตรนี้ เน้นการซักและการบำรุงเพิ่มเติมกว่าสูตรพื้นฐาน สูตรนี้ราคาสูงขึ้นมากว่าสูตร 2 อีกเล็กน้อย อาจใช้ได้ในกรณี เช่น
                                                              i.      รองเท้ามือสองที่ซื้อมา สกปรกเพราะไม่ได้ทำความสะอาดมาเลย ให้ใช้สูตรที่ 1 ก่อน ถ้าหากยังไม่สะอาดดี ก็ใช้สูตรที่ 2 ต่อ ซึ่งโดยปกติก็เพียงพอแล้ว แต่ถ้าหากอยากให้ซักออกหมดจดจริง ๆ และบำรุงด้วย ก็ใช้สูตรที่ 3 ต่ออีกครั้ง
                                                            ii.      รองเท้าหรือกระเป๋าเก็บไว้นาน ๆ มีกลิ่นไม่ดี แต่ว่าสะอาด ไม่สกปรก ก็ใช้สูตรที่ 3 นี้ได้เลย
                                                         iii.      รองเท้าใช้งานปกติ ไม่สกปรกอะไร แต่ต้องการบำรุงเพิ่ม ก็ไม่ต้องใช้สูตรที่ 2 ให้ใช้สูตรที่ 3
                                                          iv.      แล้วแต่ท่านต้องการ
d.     สูตรที่ 4 สูตรบำรุงสูงสุด สูตรนี้ ไม่เน้นการซักเท่าไหร่ เน้นการบำรุงมากที่สุด เพราะใกล้เคียงกับการเป็นครีมแล้ว ใช้ในกรณีที่เป็นรองเท้าที่ทำการ patina มา หรือรองเท้าที่ผ่านการย้อมสีมาแล้เรียบร้อย หรือจะเป็นกรณีที่รองเท้าเก่ามาก ๆ และไม่ต้องการเสี่ยงจากสารเคมีเพราะการซักอาจทำให้รองเท้าเสียหาย สีตกมากเกินไป หรือรองเท้าไม่สกปรกอะไรเลย แต่ต้องการซักรองเท้าหนัง ก่อนทำการใช้ครีมหรือน้ำยาบำรุงรักษาหนัง ก็สามารถใช้สูตรนี้ได้ สูตรนี้ราคาแพงที่สุดในทั้ง 4 สูตร แต่ก็ไม่แพงมากครับ เมื่อเทียบกับมูลค่ารองเท้าที่ราคาสูงหรือมีคุณค่า

2.     สารซักล้างผลิตภัณฑ์หนัง มีราคาแตกต่างกันพอสมควร ถ้าหากใช้ผิดวัตถุประสงค์ ก็ทำให้สิ้นเปลือง และไม่ได้ประโยชน์สูงสุด เช่น รองเท้าที่ใส่ในโรงงาน สกปรกมาก แต่ใช้สูตร 4 จะทำให้สิ้นเปลืองมาก หรือ รองเท้าราคาแพง แต่กลับไปใช้สูตร 1 เพราะต้องการประหยัด อาจทำให้รองเท้าหมองเร็วกว่าปกติ เป็นต้น
3.     สารซักล้างผลิตภัณฑ์หนัง ใช้วัตถุดิบที่มาจากธรรมชาติหลายตัว และมีสูตรเฉพาะ มีประสิทธิภาพตามที่ได้กล่าวไว้แน่นอน แต่ต้องใช้ให้ถูกต้องตามคำแนะนำการใช้งานสร้างซักล้าง และใช้ได้ตรงตามวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้

นอกจากนี้ยังมี commercial formula ที่ถูกพัฒนาขึ้นมาพิเศษสำหรับเจ้าของร้านรองเท้ามือ 2 อีกด้วยครับ ซึ่งราคาจะต่ำและมีการปรับเปลี่ยนสูตรให้เป็นไปตามความต้องการของลูกค้าแต่ละรายด้วย แล้วแต่ลูกค้าสั่งมา

รายการ link ทั้งหมด ที่มีผู้รีวิว ผลิตภัณฑ์ให้กับ John D. Goodman and Associates
มีรายละเอียดตามนี้ครับ

Facebook ของ Shoes project  รีวิว Saddle soap, Shoe cream and shoe balm ให้ตาม Link นี้




และ Facebook ของ Shoe project รีวิว liquid saddle soap และ liquid detergent with disinfectant ให้ตามลิงค์นี้ครับ

https://www.facebook.com/270443276767538/videos/579495516006160/



สำหรับการรีวิว Shoe shining cream และ Leather car balm, Intensive formula, Limited edition กลิ่น JDG Chocko Leather และกลิ่น JDG Carib Lavendor Unik ให้ตามลิงค์นี้ไปครับ

https://www.facebook.com/270443276767538/videos/232808628027471/?v=232808628027471&notif_id=1589022723757918&notif_t=live_video_explicit



Facebook ของ Shineable.co  รีวิวให้ 3 ครั้ง
ครั้งที่ 1 เป็น Saddle soap สูตร 1 และ 2

https://www.facebook.com/Shineable.co/videos/232102734638034/UzpfSTE2Mjk3NDkzMTA0MDQ0Njk6Mjg4OTA4NzI5NDQ3MDY1OA/


ครั้งที่ 2 เป็น Saddle soap สูตร 3 และ 4

https://www.facebook.com/Shineable.co/videos/525855221447690/UzpfSTE2Mjk3NDkzMTA0MDQ0Njk6MjkxMjIxNDc5NTQ5MTI0MQ/


ครั้งที่ 3 สำหรับ Shoe cream and shoe balm ทาง Shineable ได้รีวิวไว้ให้ดังนี้ครับผม





Facebook ของ Great shoes ได้นำ Shoe cream, Shoe balm and Saddle soap ไปใช้ ให้ตาม link นี้ไป

https://www.facebook.com/127348067972862/posts/531267274247604/?sfnsn=mo



สำหรับการรีวิว Leather treatment balm : intensive formula, limited edition โดยเจ้าของแบรนด์น้ำหอม KSH สำหรับกลิ่น JDG Chocko Leather และ JDG Carib Lavender Unik ตาม link นี้ไปครับ




รีวิวโดย shineable.co สำหรับ Leather treatment balm : intensive formula, limited edition




รีวิว shoe shining cream, Leather treatment balm : intensive formula, limited edition โดย Shoes project



รีวิว liquid detergent with disinfectant และ liquid saddle soap โดย shineble.co



รีวิว น้ำยาทำความสะอาดพื้นรองเท้า outsole detergent โดย Shineable.co ตาม link นี้ครับ


รบกวนฝากไลค์ฝากแชร์ด้วยครับผมครับ
ขอบพระคุณมากครับ