สำหรับรายละเอียด Saddle soap เพื่อให้คุณลูกค้า โดยเฉพาะ
JDG มีผลิตภัณฑ์ซักล้างสิ่งสกปรกออกจากหนัง
หรือ saddle soap เป็นผลิตภัณฑ์ที่ผลิตด้วยคนไทยเอง เพื่อคนไทยทุกคน และเผื่อว่าจะสนใจสบู่ซักล้างหนัง
ลองเข้าไปดูนะครับผมครับ blog นี้ครับ
Thaisaddlesoap.blogspot.com
JDG ทำ saddle soap หรือสบู่ซักล้างออกมา เพราะหาซื้อ
saddle soap ที่ใช้ซักรองเท้าไม่ได้ หาใช้ไม่ได้
พอจะใช้งานสต็อคก็หมด จึงทำขึ้นมาเอง
ผลิตภัณฑ์ของ JDG ไม่กัดหนัง ไม่ทำร้ายมือ
มีน้ำมันบำรุง มีแว๊กซ์เคลือบ ครบถ้วน ทำมาทั้งหมด 4 สูตร
ตั้งแต่บำรุงรักษาน้อย
(ซักได้ดี) ไปจน บำรุงรักษาเยอะ(ซักได้ แต่บำรุงรักษาได้ดีมาก ๆ ) ราคา กรัมละ 1.5 บาท - 5 บาทเลย แล้วแต่สูตร
โดยราคานี้เป็นราคาขายปลีก ถ้าหากซื้อมาก ๆ
หรือซื้อประจำ ก็จะลดลงไปได้อีกมาก
แม้ราคาจะสูงไปนิดแต่จริง
ๆ ใช้ไม่มากครับ ไม่เปลือง ต่อคู่ก็ประมาณ 50 กรัม ต่อปี ถ้าใช้งานปกติ
ราคาถูกกว่าสินค้าจาก
ตปท แน่นอน ใช้ได้ดีไม่แพ้กัน
ไทยทำ ไทยใช้
ไม่ง้อ ตปท
สูตรทั้ง 4 ของ Saddle soap
1. John D. Goodman มี Saddle soap ให้ 4 สูตร
a. สูตรที่ 1 สำหรับหนังสกปรกมาก เช่น
รองเท้าหรือกระเป๋าท่าน ไปติดดินโคลนมา หรือไปติดสารเคมีในโรงงานมา
หรือท่านซื้อรองเท้ามืองสอง หรือกระเป๋ามือสองมาใหม่
โดยที่ทางผู้ขายไม่ได้ทำความสะอาดมาให้ท่านให้ดีอย่างที่ควรจะเป็น
ท่านต้องใช้สูตรนี้ เพราะสูตรนี้เน้นการซักล้าง และสูตรนี้มีราคาถูกที่สุด
b. สูตรที่ 2 สูตรพื้นฐาน สำหรับรองเท้าหรือกระเป๋าที่ใช้งานตามปกติ
สำหรับหนังทั่วไป เช่นใช้รองเท้าไป แล้วไปโดนโคลนหรือฝุ่นมานิดหน่อย
หรือเก็บไว้นาน ๆ โดนฝุ่นจับ เป็นต้น สูตรนี้ราคาปานกลาง
c. สูตรที่ 3 สูตรเพิ่มพลังซัก และเพิ่มการบำรุง
สูตรนี้ เน้นการซักและการบำรุงเพิ่มเติมกว่าสูตรพื้นฐาน สูตรนี้ราคาสูงขึ้นมากว่าสูตร
2 อีกเล็กน้อย อาจใช้ได้ในกรณี เช่น
i.
รองเท้ามือสองที่ซื้อมา สกปรกเพราะไม่ได้ทำความสะอาดมาเลย
ให้ใช้สูตรที่ 1 ก่อน ถ้าหากยังไม่สะอาดดี ก็ใช้สูตรที่ 2 ต่อ
ซึ่งโดยปกติก็เพียงพอแล้ว แต่ถ้าหากอยากให้ซักออกหมดจดจริง ๆ และบำรุงด้วย
ก็ใช้สูตรที่ 3 ต่ออีกครั้ง
ii.
รองเท้าหรือกระเป๋าเก็บไว้นาน ๆ มีกลิ่นไม่ดี แต่ว่าสะอาด ไม่สกปรก
ก็ใช้สูตรที่ 3 นี้ได้เลย
iii.
รองเท้าใช้งานปกติ ไม่สกปรกอะไร แต่ต้องการบำรุงเพิ่ม
ก็ไม่ต้องใช้สูตรที่ 2 ให้ใช้สูตรที่ 3
iv.
แล้วแต่ท่านต้องการ
d. สูตรที่ 4 สูตรบำรุงสูงสุด สูตรนี้
ไม่เน้นการซักเท่าไหร่ เน้นการบำรุงมากที่สุด เพราะใกล้เคียงกับการเป็นครีมแล้ว
ใช้ในกรณีที่เป็นรองเท้าที่ทำการ patina มา
หรือรองเท้าที่ผ่านการย้อมสีมาแล้เรียบร้อย หรือจะเป็นกรณีที่รองเท้าเก่ามาก ๆ
และไม่ต้องการเสี่ยงจากสารเคมีเพราะการซักอาจทำให้รองเท้าเสียหาย สีตกมากเกินไป
หรือรองเท้าไม่สกปรกอะไรเลย แต่ต้องการซักรองเท้าหนัง
ก่อนทำการใช้ครีมหรือน้ำยาบำรุงรักษาหนัง ก็สามารถใช้สูตรนี้ได้
สูตรนี้ราคาแพงที่สุดในทั้ง 4 สูตร แต่ก็ไม่แพงมากครับ เมื่อเทียบกับมูลค่ารองเท้าที่ราคาสูงหรือมีคุณค่า
2. สารซักล้างผลิตภัณฑ์หนัง มีราคาแตกต่างกันพอสมควร
ถ้าหากใช้ผิดวัตถุประสงค์ ก็ทำให้สิ้นเปลือง และไม่ได้ประโยชน์สูงสุด เช่น
รองเท้าที่ใส่ในโรงงาน สกปรกมาก แต่ใช้สูตร 4 จะทำให้สิ้นเปลืองมาก หรือ รองเท้าราคาแพง
แต่กลับไปใช้สูตร 1 เพราะต้องการประหยัด อาจทำให้รองเท้าหมองเร็วกว่าปกติ เป็นต้น
3. สารซักล้างผลิตภัณฑ์หนัง ใช้วัตถุดิบที่มาจากธรรมชาติหลายตัว
และมีสูตรเฉพาะ มีประสิทธิภาพตามที่ได้กล่าวไว้แน่นอน
แต่ต้องใช้ให้ถูกต้องตามคำแนะนำการใช้งานสร้างซักล้าง
และใช้ได้ตรงตามวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้
นอกจากนี้ยังมี commercial formula ที่ถูกพัฒนาขึ้นมาพิเศษสำหรับเจ้าของร้านรองเท้ามือ
2 อีกด้วยครับ ซึ่งราคาจะต่ำและมีการปรับเปลี่ยนสูตรให้เป็นไปตามความต้องการของลูกค้าแต่ละรายด้วย
แล้วแต่ลูกค้าสั่งมา