การทำความสะอาดหรือการซักล้างผลิตภัณฑ์หนัง ตอนที่ 1
แต่เดิม ที่ยังไม่มีความรู้ ผมก็ชำระล้างหนังด้วยการล้างน้ำธรรมดา พบว่า
มันไม่ดีเอาซะเลย เพราะหลังจากซัก ๆ แปรง ๆ หนังแล้ว
สภาพหนังอาจออกมาสะอาด
แต่มันก็ทำให้หนังเสียสภาพไปเลย แห้ง แตก รู้สึกได้จริง ๆ
หรือล้างด้วยสบู่ หรือล้างด้วยผงซักฟอก ก็คล้าย ๆ กัน
ไม่ได้ดีกว่ากันเท่าไหร่
หรือการใช้สารเคมีมาพอก ทิ้งไว้เป็นคืน ๆ ก็ไม่ได้ช่วยอะไรให้ดีขึ้น
แค่รู้สึกว่ามันดีขึ้น แต่หนังก็ยังไม่สะอาดเอี่ยม
แล้วจริง ๆ การซักล้างผลิตภัณฑ์หนังทำได้อย่างไรกันล่ะ
หลังจากที่ได้เริ่มทำ Saddle soap ใช้เอง
และเริ่มทำความสะอาดหนังด้วยตนเอง ผมก็เริ่มหาข้อมูลในการทำความสะอาดหนังด้วยตนเอง
จนได้รายละเอียดทั้งหมด แล้วนำมาลองทำความสะอาด จดบันทึก และลองใหม่
ซ้ำแล้วซ้ำเล่า
จนเรียกได้ว่าประสบความสำเร็จในการทำความสะอาดหรือซักล้างผลิตภัณฑ์หนัง ผลงานที่ได้คือ หนังที่สะอาดและไม่เปลี่ยนสภาพหลังการซักล้าง
ในทางปฏิบัติของผม ที่ผมหาข้อมูลมาและทำการซักล้างด้วยตนเองนั้น สามารถแบ่งการซักล้างออกได้เป็น
3 ช่วง คือ
- ก่อนการทำการซักล้าง
- ช่วงซักล้าง
- ช่วงหลังการซักล้างแล้ว
ก่อนการทำการซักล้างรองเท้าหรือผลิตภัณฑ์หนังนั้น ที่ถูกต้อง
คือต้องมีการเตรียมผลิตภัณฑ์ให้เหมาะสมกับการล้างเสียก่อน ซึ่งสามารถทำได้ดังนี้
- ทำความสะอาดให้เรียบร้อยเท่าที่จะทำได้ เช่น เช็ดออกด้วยผ้าชุบน้ำหมาด หรือเช็ดคราบต่าง ๆ ออกด้วยผ้าแห้ง เท่าที่พอทำได้ หรือถ้าหากรองเท้าหรือกระเป๋าจมน้ำมา ออกแนวเน่า ก็ควรเอาไปผึ่งลม หรือตากแดดอ่อน ๆ ให้หนังแห้งหมาดหรือพร้อมที่จะเข้ากระบวนการซักล้างต่อไป
ช่วงซักล้าง ช่วงนี้มีความสำคัญมาก เด๋วจะมาอธิบายต่อไปในรายละเอียด
ช่วงหลังการซักล้างแล้ว ต้องมีการปฏิบัติต่อผลิตภัณฑ์หนังอย่างถูกต้อง
มิฉะนั้นแล้ว อาจทำร้ายหนังได้ ซึ่งหลังการซักล้างนั้น
จะต้องมีการกำจัดน้ำออกจากหนังให้มากที่สุดเท่าที่ทำได้ ซึ่งทำได้โดย
- การนำผ้าหรือกระดาษทิชชู่มาซับน้ำออกให้ได้มากที่สุด และเร็วที่สุด ให้เหลือน้ำในรองเท้าน้อยที่สุดเท่าที่ทำได้
- หลังจากนั้น ให้นำไปผึ่งลม หรือนำไปตากลม ในบริเวณที่มีอากาศถ่ายเทได้ดี
- เมื่อแห้งหมาดดีแล้ว ก็ควรเอาไปตากแดดที่ไม่แรงจนเกินไป และควรตากแดดแต่พอดี ไม่ใช่ตากจนแห้งผากไปหมด ซึ่งอาจทำร้ายสีหนังหรือทำร้ายหนังได้
- ที่สำคัญคือ อย่าสวมรองเท้าหนังหรือใช้กระเป๋าทั้งที่ยังไม่แห้ง เพราะเป็นการทำร้ายหนังโดยตรง อาจทำให้หนังฉีกขาด หรือเป็นรอยชนิดที่แก้ไขได้ยากอีกด้วย
จบการทำความสะอาดหรือการซักล้างผลิตภัณฑ์หนัง ตอนที่ 1
No comments:
Post a Comment